ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล
การทำธุรกรรมกับหลายเปรเทศมักเป็นเรื่องที่ดี แต่ความผันผวนของคลื่นทะเลนั้นอาจทำสินค้าแตกหรือหายได้ หากเป็นเช่นนั้น คุณรับได้ไหม?
ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลคืออะไร?
ประกันภัยส่งสินค้าทางทะเลสามารถปกป้องบรรดาธุรกิจที่ส่งหรือรับสินค้าทางทะเล ยิ่งปัจจุบันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก สายงานการส่งมอบสินค้าจึงแผ่ขยายไปทั่วทุกจุดบนโลก ซึ่งเท่ากับเพิ่มความเสี่ยงด้านความสูญเสียหรือชำรุดระหว่างการส่ง กรมธรรม์สินค้าส่งทางทะเลสามารถช่วยปกป้องธุรกิจของคุณไม่เพียงแต่ความสูญเสียหรือเสียหายระหว่างทางหรือการเก็บสินค้าแต่ยังรวมไปถึงความสูญเสียหรือเสียหายของสินค้า
ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลให้ความคุ้มครองอย่างไรบ้าง?
โดยพื้นฐานแล้ว การประกันภัยสินค้าทางทะเลจะปกป้องสินค้าของคุณทางการเงิน ครอบคลุมความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดกับตัวเรือ สินค้า หรือการขนส่งประเภทอื่น ๆ ที่สินค้าได้ถูกจัดส่ง นอกจากนี้ยังดูแลผลกระทบทางการเงินหากความเสียหายนั้นเกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม และอื่นๆ นอกจากนี้ ภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้นยังครอบคลุม เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในกรมธรรม์
ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลมีประโยชน์ต่อธุรกิจคุณอย่างไร?
เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมหลายชนิดทันสมัยมากขึ้น อันก่อผลให้โลกกลายเป็นสถานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การขนส่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ภาคส่วนที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้ช้า สินค้าขึ้นชื่อเรื่องการแตกหักระหว่างการขนส่งซึ่งก่อให้เกิดความแตกแยกทางการเงินอย่างมาก ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ การประกันภัยสินค้าทางทะเลจึงเป็นสิ่งที่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถช่วยคุณทางการเงินในกรณีที่สินค้าของคุณสูญหายหรือเสียหายระหว่างการขนส่ง
ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลเหมาะกับธุรกิจคุณไหม?
หากธุรกิจของคุณต้องการสิ่งต่อไปนี้ ขอแนะนำให้พิจารณาการประกันภัยสินค้าทางทะเลเป็นส่วนหนึ่งของแผนความคุ้มครองของคุณ:
- หากธุรกิจของคุณส่งสินค้าทางทะเลและต้องเสี่ยงต่อการสูญเสียรายได้หากว่าผลิตภัณฑ์เกิดสูญเสียหรือเสียหาย
- หากธุรกิจของคุณอาจจะต้องมีส่วนรับผิดชอบระหว่างการส่งโดยมีส่วนอาจก่อความเสียหายต่อผู้อื่น

ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลมีค่าใช้จ่ายมากน้อยขนาดไหน?
การส่งสินค้าทางทะเลยึดโยงอยู่กับสิ่งต่างๆ หลายอย่างต่อไปนี้เป็นเพียงองค์ประกอบบางประการที่ถูกนำมาพิจารณาในการกำหนดราคา:
- ลักษณะสินค้าที่มีการจัดส่ง
- มูลค่าของสินค้าที่จัดส่ง
- ประเภทของขนส่งที่ใช้
- แหล่งต้นทางของการส่งสินค้าและปลายทาง
- สินค้ามีโอกาสจะโดนโจรกรรมมากเพียงใด
- คุณภาพหีบห่อ
- ประวัติค่าสินไหมทดแทน