ประกันภัยรถยนต์
การอยู่บนท้องถนนทุกวี่ทุกวันก็เสี่ยงพออยู่แล้ว แต่คุณไม่ควรต้องเสี่ยงในเรื่องการมีประกันรถยนต์เพิ่มเข้าไปด้วยอีกเรื่อง
ประกันภัยรถยนต์คืออะไร?
พูดง่ายๆ คือประกันภัยรถยนต์เป็นเหมือนกันชนสำหรับการต้องสูญเงินทองหากเกิดอุบัติเหตุ ทางบริษัทประกันพร้อมจะจ่ายค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาล
ประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองอย่างไรบ้าง?
มี 3 มาตรฐานความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ คุณสามารถดูรายละเอียดด้านล่าง:
ความคุ้มครองต่อทรัพย์สิน : เมื่อรถของคุณเสียหายหรือถูกขโมย
ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก: ความรับผิดชอบทางกฎหมายของคุณต่อผู้อื่นสำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือการบาดเจ็บทางร่างกาย
ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย: ค่ารักษาอาการบาดเจ็บและการฟื้นฟูสมรรถภาพ
คุณสามารถเลือกประเภทความคุ้มครองของคุณเองได้ ด้านล่างนี้คือรายละเอียดโดยย่อและการเปรียบเทียบองค์ประกอบของปกแต่ละประเภท:

นอกจากนี้ ความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรมธรรม์ทุกประเภทมีอยู่ด้านล่าง:
- การเสียชีวิต
- การสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงของผู้ขับขี่และสมาชิกในรถจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล
- ค่ารักษาพยาบาล
โปรดทราบว่าในขณะที่มีความคุ้มครอง วงเงินต้องไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
นอกจากนี้ ยังมีการบังคับทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับเพิ่มเติมจากประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองการบาดเจ็บถึงแก่ชีวิตของบุคคลภายในรถและบุคคลภายนอก
ประกันภัยรถยนต์มีประโยชน์ต่อคุณอย่างไร?
บนท้องถนนถึงแม้ว่าเราจะระมัดระวังเพียงใดก็มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ การมีประกันรถยนต์ทำให้เจ้าของรถยนต์ไม่ต้องรับความเสี่ยง ช่วยแบ่งเบาภาระค่าซ่อมรถยนต์ของเราและคู่กรณี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ หรือในกรณีรถหาย ก็จะได้รับเงินชดเชยตามความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่ได้เลือกทำไว้
ประกันภัยรถยนต์เหมาะกับคุณไหม?
ขอแนะนำประกันภัยประเภท 1 ช่วยให้คุณมั่นใจ เพราะประกันภัยประเภทนี้ให้ความคุ้มครองสูงที่สุดในทุกๆ กรณี คุณจะยังมีรถใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และประกอบอาชีพ ลดการสูญเสียสินทรัพย์แบบไม่คาดฝัน ถึงแม้รถยนต์ทุกคันที่ต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกมีประกันภัย พ.ร.บ.เป็นหลักประกันให้กับผู้คนที่อยู่ในรถทุกคันแล้วก็ตาม
ประกันภัยรถยนต์มีค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน?
มีปัจจัยหลายอย่างที่มีส่วนในการกำหนดราคาค่าประกันภัยรถยนต์ แยกออกเป็นหลายปัจจัยได้ดังนี้:
- วงเงินคุ้มครอง: เบี้ยประกันรถยนต์จะคิดจากทุนประกัน โดยหากทุนประกันมีวงเงินสูง เราก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันในราคาสูงตามไปด้วย
- ข้อมูลรถยนต์: รุ่น เครื่องยนต์ ปีที่ผลิต
- ประวัติการเคลม: ประวัติเคลมสูง อาจจะต้องจ่ายค่าเบี้ยสูงกว่า และไม่ได้ส่วนลดเบี้ยประกัน
ไม่ว่าจะเป็นประกันสำหรับธุรกิจหรือส่วนบุคคล ก็ควรเริ่มต้นความคุ้มครองในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มค่ากว่า