พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม

การลงทุนในกังหันลมมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากแต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าผลตอบแทนจะสูงตามไปด้วย ดังนั้นความเสี่ยงในธุรกิจประเภทนี้มีค่อนข้างที่สูง อย่างไรก็ตามกังหันลมเป็นนวัตกรรมและมีบทบาทที่สำคัญที่จะทำให้โลกเราสวยและเขียวขึ้นและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจนี้ยังไปได้อีกยาวไกล

การตัดสินใจและพิจารณาว่าโครงการจะคุ้มขนาดไหนและจะสำเร็จลงได้ย่อมต้องนำปัจจัยหลายๆ อย่างมาประเมิน เช่น ค่าก่อสร้าง เทคโนโลยี การชำระเงิน ค่าดูแลและแนวทางการบำรุงรักษา ความรับผิดชอบในแง่ของการเงิน และแผนการในแง่ของรายรับ ทุกๆ ระยะของของการลงทุน มีอุปสรรคและความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจใช้เกินกว่ากำหนด ความล่าช้า ปัญหาต่างๆ ตอนเริ่มทดสอบและใช้งาน ปัญหาด้านสัญญา การผิดนัดการชำระเงิน ความบกพร่องที่ซ่อนอยู่และมองไม่เห็นหรือแม้แต่ความพินาศรวมไปถึงภัยพิบัติ ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถบรรเทาลงได้หากมีประกันภัยคุ้มครอง ยกตัวอย่างเป็นต้น ใบพัดกังหันอาจไม่ทำงานซึ่งผลกรทบที่ตามมาบานปลายได้เสมอไม่ว่าจะเป็น การเรียกค่าชดเชย ค่าเครื่องปั่นจั่น ค่าวัสดุและค่าจ้างในการซ่อมแซม โดยทั้งหมดนี้สามารถกระทบถึงรายรับได้เสมอ

โรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละโปรเจ็ก ต้องวางแผนอย่างรอบคอบแต่ละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการก่อสร้าง ทดสอบ ระหว่างปฏิบัติการและการเคลื่อนย้ายของอุปกรณ์ นอกจากนี้ วินาศภัยต่างๆ เช่น อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัยและฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งอาจทำให้เครื่องจักรชำรุดและโครงการต้องหยุดชะงักลง 

ยิ่งไปกว่านั้น สภาพอากาศอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ หากท้องฟ้ามีเมฆหมอกมากทำให้ผลผลิตลดน้องลงส่งผลให้รายได้ก็ลดลงตามไปด้วย CHAZ สามารถจัดความคุ้มครองประกันภัยหากผลผลิตต่ำกว่ารายได้ที่คาดไว้ ซึ่งประกันประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องมีการเสียหายก็สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้

หลายองค์กรกำลังพยายามจะเปลี่ยนของเสียทางออร์แกนิกให้กลายมาเป็นพลังงาน ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะล้วนจะมีแต่ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ประโยชน์จะเหลือล้น แต่ความเสี่ยงก็มีไม่แพ้กัน ก่อนจะเริ่มสร้างเชื้อเพิงชิวภาพ คุณควรตั้งคำถามถึงความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝึกฝนในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน การดูแลรักษาเฉพาะทาง การแก้ปัญหาเมื่ออุปกรณ์ชำรุดหรือวัตถุดิบที่สามารถนำเชื้อเพลงชิวภาพมาอย่างสม่ำเสมอ หากคุณมีคำตอบที่ออกไปทางที่คุณคิดว่าคุณพร้อม โอกาสที่ปัญหาหรือความล้มเหลวที่ตามมาก็จะลดลงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการดูแลและมีแผนการให้โครงการออกมาราบรื่น แต่บางอย่างไม่ได้อยู่ในการควบคุมของคุณและอาจมีความเสี่ยงจากภัยวินาศอื่นๆ ได้เสมอ นอกจากนี้การใช้วัตถุดิบย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นการทำประกันภัยมักเป็นทางออกที่ลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด

โครงการด้านที่ต้องอาศัยน้ำมักจำเป็นต้องคำนึงถึงรายละเอียดให้มาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนสร้าง ระหว่างก่อสร้าง จนถึงวันใช้งาน การทำประกันภัยสามารถช่วยให้ความคุ้มครองเรื่องอุปกรณ์และการเคลื่อนย้าย การก่อสร้างและการตกแต่ง รวมไปถึงการทดลองใช้ หากมีปัญหาด้านอุปกรณ์หรือได้รับความเสียหายระหว่างติดตั้ง ประกันภัยก็สามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การใช้เนื้อที่เป็นอาณาบริเวณกว้างอาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมบริเวณนั้น หากมีผลกระทบเกินมาตรฐาน ประกันภัยก็สามารถช่วยได้ในเรื่องของคดีความและค่าชดเชย